TOYOTIRE Open Country R/T

ตอบโจทย์ทุกถนน ทางดำเด่น ทางฝุ่นเยี่ยม

 

โดย วชิระ เรืองมาลัย

 

R/T นี่คือ DNA ใหม่ ที่มีส่วนผสมระหว่าง ยาง A/T และ M/T ที่ลงตัวที่สุด ดอกยางสวยขึ้น ดุดัน แข็งแกร่ง สามารถใช้ได้ทุกสภาพถนน เหมาะกับถนนเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง โจทย์ของผมสำหรับฟอร์จูนเนอร์ รุ่นแรก ปี 2005 คือการเปลี่ยนทรงรถให้มีความสวยงาม ดุดัน และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นทั้งบนถนนดำ ทางฝุ่นและออฟโรดเล็กน้อยเมื่อต้องการออกแค้มป์

 

 

หลังจากได้กล่องอเนกประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระทูเล่จากสวีเดนมาแบกอยู่บนหลังคาอีก 600 ลิตร เพื่อจัดเก็บสัมภาระ อุปกรณ์แค้มป์ปิ้ง (อันที่จริงความจุของพื้นที่ท้ายรถเมื่อเอาที่สองที่นั่งหลังออกก็กว้างขวางอยู่ครับแต่มันไม่พอเพราะสมาชิกคือลูกชาย 4 ขา ยึดพื้นที่เบาะแถว 2 ไปเกลี้ยง ) สวยงามลงตัว ก็ถึงเวลาต้องทำช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อน ซึ่งก็ได้พรรคพวกหละครับ ดูแลเบื้องต้นเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด และเซอร์วิสระบบขับ 4 ซึ่งไม่ได้ใช้มานานมากทุกอย่างก็กลับมาใช้งานปกติ (อยากใช้ขับ 4 บ้าง ทั้ง 4H 4L เผื่อต้องออกไปพื้นที่นอกถนนดำสำหรับบางแค้มป์) 

 

จากนั้นก็ใช้บริการของศูนย์บริการ GRIP สาขาโชคชัย 4 ใกล้ ๆ บ้าน ดูแลดีครับ สำหรับโปรแกรมตรวจเช็คและปรับจูนจุดยึดต่าง ๆ ของระบบช่วงล่างทั้งหน้าและหลังส่วนโช้คอัพและสปริงนั้น ฟอร์จูนเนอร์คันนี้ใช้ของ “แร๊บบิท”  มีเฮียเคี้ยง ดูแลมาตั้งแต่เกิดครับ ใช้มา 20 ปีอย่างดีรั่วซึมก็เข้าไปเซอร์วิสได้แพงหน่อยแต่ก็คุ้มค่าครับ เกาะยึดนุ่มหนึบ ลืมคำว่าโดดเด้งของรถ PPV แหนบไปเลย

เมื่อช่วงล่างเข้าที่ ก็ต้องไปโฟกัสกันที่ รองเท้าละครับ เปลี่ยนล้อเดิม 18 นิ้วที่วิ่งออนโรดโดดเด่นมาเกือบ 20 ปี ลดไซด์ลงมาเหลือล้อ 17 นิ้วของเลนโซ่ลายหยดน้ำราคาก็เอาเรื่องเลยครับตกวงละ 6 พันกว่า ส่วนยางมาจบที่โตโยไทร์ ที่ผมจะโฟกัสที่การวิ่งนี่หละครับ

ปกติ ฟอร์จูนเนอร์คันนี้ไม่ค่อยได้วิ่งมากนัก รถเกือบ 20 ปี เลขไมล์อยู่ที่ 2 แสนกว่า กม. ถือว่าใช้ไม่เยอะหละครับ สภาพรถค่อนข้างสมบูรณ์เพราะผมดูแลดี แต่อัตราสิ้นเปลืองนะเหรอ อยู่แถว ๆ กิโลละ 4-5 บาท หรือประมาณ 5-6 กิโลลิตร กินมากเพราะไม่ได้รีแมพ รถเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ดีเซลโมเดลแรกครับ

 

 

มาดูกันที่ยาง โตโย โอเพ่นคันทรี ครับ ผมเปลี่ยนจากล้อ 18 เดิม จากที่เคยเป็น โตโย ไฮเทอเรน (H/T มาเป็น โตโย โอเพ่นคันทรีแบบ R/T ที่ติดอกติดใจในแบรนด์ โตโย ก็เพราะในรุ่น ไฮเทอเรน 18 นิ้ว ล้อเดิมนั้น วิ่งทางเรียบตอบโจทย์ผมมาก ในเรื่องของการเกาะถนน และเสียงที่เงียบ ความรู้สึกที่นุ่ม หนึบ และหลังจากผมทดลองใช้งาน โตโยโอเพ่น คันทรี ใหม่ ในล้อเลนโซ่ 17 นิ้ว ซึ่งลดขนาดแม็กลงมา ขับขี่ใช้งานอยู่สัก 2-3 ทริป ในระยะตั้งแต่เดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา การใช้งานรู้สึกพึงพอใจมากเลยครับ

ประการแรกเลย ความหล่อ เปลี่ยนล้อมาเป็น 17 นิ้ว เลือกยางหน้ากว้างยื่นเลยซุ้มล้อออกมานิดหน่อย ไม่ต้องปรับความสูงของรถ (265/70R17) ลงเต็มซุ้มล้อได้พอดี ไม่ต้องยกติด ล้อหน้าปาดใต้กันชน (มันมีสเกิ๊ตหน้าชุดแต่งสไตล์สิงห์ทางเรียบว่างั้น) นิดหน่อย เพราะตอนใส่ล้อ 18 ผมเอาช่วงล่างลงมานิดนึงเพื่อการยึดเกาะของทางเรียบที่หนึบขึ้น ไปติดตั้งยางที่ GRIP โชคชัย 4 ขับออกจากศูนย์บอกเลยครับ หล่อมาก พอดิบพอดีเป๊ะ 

 

สิ่งที่กังวลกับ โตโย R/T ที่จ้องจับผิดอยู่บอกเลยครับใช้มา 1 พันกว่าโลแล้ว ยังหาไม่เจอ สมรรถนะทางเรียบทางดำนั้นได้สปีดปลาย ๆ  ดีขึ้นมาอีก เพราะเปลี่ยนมาใช้ล้อ 17 นิ้ว อัตราเร่งดีขึ้น ความเร็วปลายดีขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่ลดลงประหยัดน้ำมันกว่าตอนที่ใช้ล้อ 18 นิ้ว การเลี้ยวการยึดเกาะดีขึ้นมาก คาแรคเตอร์ของยางเป็นแบบ นุ่มหนึบ เสียงเงียบแม้ในความเร็วสูงเกิน 140 กม./ชม. อันนี้ถูกใจสุดครับ เพราะแอบ ๆกังวลอยู่เนื่องจากในหลายสิบปี ของรถคันนี้ได้ลองยาง A/T มาหลายยี่ห้อแล้วครับ บางยี่ห้อ เนื้อยางนุ่ม เกินไปวิ่งแล้วกินยางไวสึกหรอไว บางยี่ห้อลายสวยแข็งแกร่งดุดันเป็นที่ 1 ของตลาดแต่เอามาวิ่งแล้วเหนื่อยใจกระเด้งกระดอนกระด้างแข็งเร็วเนื้อตายเร็ว เสียงหอนมาตั้งแต่ความเร็วยังไม่ถึงร้อย ใครอยากรู้ยี่ห้อไรรุ่นไหนหลังไมล์มาคุยได้ครับ

 

ส่วนทางฝุ่น ทางออฟโรดเล็ก ๆ นั้น โตโย โอเพ่นคันรี ก็ตอบโจทย์และสอบผ่านจริงครับ ลองวิ่งครอสคันทรีตามสไตล์ตัวเองที่เคยเป็นนักแข่งรถประเภทนี้มาแล้วในอดีต ยืนยันครับ ยางมีส่วนช่วยเรื่องการขับทางฝุ่นดีมาก ทางฝุ่นใช้ขับสอง ยางเอาอยู่ สไลด์แก้พวงมาลัยสนุกสนานถ้าไม่ได้ยางตัวนี้คงไม่มันแบบนี้แน่ แต่ถ้าจะให้เกาะหนึบเลี้ยวตรงไม่ต้องแก้วงพวงมาลัยใช้ขับ 4H ช่วยยิ่งเอาอยู่หนึบหนับเลยครับ ได้มีโอกาสใช้ขับ 4L บ้างสภาพทางโคลนลื่นไถล และไต่ขึ้นลงเดินวอคกิ้งสปีดเติมรอบเล็กน้อย ไม่ต้องไปถึงยาง A/T หรือ M/T หรอกครับ โตโยโอเพ่นคันทรีก็ไปได้ โดยสรุปผมชอบครับ โตโย โอเพ่นคันทรี ยางที่อยู่ระหว่างกลางสำหรับยางประเภท H/T กับ A/T  ลายสวยดุดัน ขับบนถนนดำเด่น ในขณะเดียวกันทางฝุ่นก็เยี่ยมเลยทีเดียวครับ