Toyota TRAVO-e...ขับแล้วฟิลเป็นไง

ลุยได้จริงไหม และเป็นรถที่เหมาะกับใคร?

 

 

ทดลองขับโดย : กันต์ เย็นสบาย

 

 

นี่คือ TRAVO-e กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ Hilux จาก Toyota ในแบบ Body-on-frame ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า มอเตอร์คู่  ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive กับระยะทาง 315 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) เป็นกระบะไฟฟ้าที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ให้มีสมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง และเน้นในเรื่อง Diamond Guard เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า

หลังจากแนะนำ เปิดตัว TRAVO-e ออกสู่ตลาดรถยนต์ไทยไม่นาน ทาง TOYOTA เชิญสื่อมวลชน รวมทั้ง Acarnews  ไปร่วมสัมผัสสมรรถนะของรถกระบะไฟฟ้า 100% รุ่นนี้ กันครับ

การเดินทางในวันนี้ จาก Toyota alive ย่านบางนา ฟังบรีฟสรุปข้อมูล ของตัวรถ และลองขับแบบ On Road จาก Toyota alive ขับมาพัทยา จ.ชลบุรี  เพื่อลองการขับขี่แบบลุยทางโหด ที Moonlight Camping ชลบุรี ในสนามออฟโรด ครับ…

 

 

ดีไซน์ดุดัน บึกบึน  ในตัวถังแบบ 4 ประตูยกสูง ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย แต่หรู

ดีไซน์ภายนอก ดุดัน บึกบึน ในตัวถังแบบ 4 ประตูยกสูง Double Cab 4TREX เท่านั้น มองแค่ภายนอกก็รู้เลยครับว่า ไม่ใช่สายหวาน ดีไซน์มาในคอนเซ็ปต์ Cyber Sumo ที่แข็งแกร่ง มั่นคง ดูบึกบึนทุกมุมมอง Dimension มิติตัวถัง - ยาว  5,320 มิลลิเมตร - กว้าง  1,855 มิลลิเมตร - สูง  1,800 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance  215 มิลลิเมตร ลุยน้ำได้สูงสุดระดับ 700 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.4 เมตร รองรับน้ำหนักบรรทุก 715 kg. 

กระจังหน้า ดีไซน์พิเศษเฉพาะ TRAVO-e สีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ไฟ Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า /หลัง และไฟท้าย แบบ LED บังโคลนซุ้มล้อ ด้านหน้า - ด้านหลัง สีเดียวกับตัวรถ บันไดข้าง ขึ้น-ลงง่าย บันไดเหยียบกระบะท้าย ใช้งานจริง เอาใจสายบรรทุก ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว - ยาง ขนาด 265/65 R17 เรียกว่าเส้นสายเหลี่ยมคมรอบคัน ดูดุดัน สไตล์ปิคอัพไฟฟ้ายุคใหม่

  

 

ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย แต่หรู และเน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและใช้งานง่าย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Softex เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลัง ยกพับขึ้น แยก 60 : 40  มีที่วางแขนตรงกลางเบาะนั่งด้านหลัง คอนโซลหน้า แผงประตู บุนุ่มหุ้มด้วยหนัง พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS โหมดการขับขี่ Eco / Normal / Sport และคันเกียร์ไฟฟ้า e-Shifter

 

 

มาตรวัด Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone  มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth  ระบบ T-CONNECT  ลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมลำโพงบนเพดาน Roof Speaker  ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold ปุ่มสตาร์ทแบบ Push Start Button   ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry

  

 

หัวใจหลักกับขุมพลังระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Dual Motor มอเตอร์คู่ (มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ) ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์) ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร, ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh  ระยะทาง 315 กม. ( NEDC) 

การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10 กิโลวัตต์ และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 125 กิโลวัตต์ และยังมี เทคโนโลยี Dynamic Cloud" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น ผ่านระบบช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลัง De-Dion พร้อมแหนบซ้อน และระบบเบรกด้านหน้า ดิสก์เบรก / ด้านหลัง ดิสก์เบรก  ระบบความปลอดภัยทั้ง แบบ Active Safety  และ Passive Safety ครบ 

  

 

ลองขับแบบ OFF Road ที่ Moonlight Camping

สำหรับ Travo-e ทาง Toyota เน้นในเรื่อง Diamond Guard เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ในตัวถังแบบ Body on frame ที่เน้นเรื่องความแข็งแรงและการเป็นรถปิคอัพพันธุ์แท้พร้อมลุย แต่ก็ยึดเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนครับ ทั้งการเสริมชุดกันกระแทกให้แบตเตอรี่ แบบ 4 ชั้น กับการเสริมความปลอดภัยแบบ 6 ทิศทาง 

การติดตั้งระบบหล่อเย็นให้แบตเตอรี่ ไปจนถึงระบบตัดไฟอัตโนมัติ คือสิ่งที่ คนใช้รถน่าจะสบายใจชุดอินเวอร์เตอร์ และออนบอร์ดชาร์จเจอร์ และชุดมอเตอร์ถอดแยกชิ้นได้ ซ่อมบำรุงง่าย ลดค่าใช้จ่ายได้ ยามเสียหาย และมาพร้อมโหมดการขับขี่ Multi-Terrain Select (MTS) ปรับการการกระจายกำลัง และการควบคุมเบรก ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่แบบ Off-road มีให้เลือก 5 รูปแบบ ดังนี้ Dirt พื้นดิน/กรวด, Sand พื้นทราย, Mud พื้นโคลน, Rock พื้นหิน และ Mogul เนินสลับ (ใหม่)

 

 

ส่วนที Moonlight Camping ชลบุรี ในสนามออฟโรด แบบเบา ๆ กับ 4 สถานี เพื่อลองลุยทางโหด Travo-e ลุยได้ดีครับ ทั้งจาก "ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่ รวมทั้ง กับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ทำงานได้แบบเดียวกับใน Travo Overland ทั้ง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC  ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC แบบ A-TRC และ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา PVM รวมทั้งกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีระบบ MTS – Multi Terrain Select ที่มีโหมดขับขี่ ให้เลือกเพิ่มมาให้ เฉพาะใน Travo-e  คือในโหมด MOGUL ที่จะทำงานระบบแปรผันกำลังให้ละเอียดมากขึ้น ปีนข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการลุยน้ำลึก 700 มม. หรือ 70 ซม. รวมทั้ง ช่วงล่างและแบตฯ ที่ออกแบบมาเพื่อการลุยด้วยเทคโนโลยี Diamond Guard” ทั้ง แผ่นปิดใต้ท้องรถ แบตยึดกับเฟรมย่อย โครงสร้างดูดซับแรงกระแทกรอบคัน  มีระบบป้องกันแรงกระแทกทุกทิศทาง และ ตำแหน่งแบตฯ มีพื้นที่เผื่อแรงกระแทรกรอบด้าน กั้นไม่ให้ตัวแบตฯ เสียหาย 

ส่วน มอเตอร์ที่อยู่ตำแหน่งแทนเฟืองท้าย กับช่วงล่างด้านหลังแบบ De-Dion มีเพลาไปล้อหลังทั้ง 2 ข้าง แข็งแรง ระยะยืดยุบเยอะ ลุยสบายครับ เรียกว่า ลุยได้จริง ไม่ต้องกลัวแบตพัง

  

 

คุยหลังขับ กับ กันต์ เย็นสบาย

 TRAVO-e... มีจุดที่น่าสนใจหลายจุดครับ ทั้ง การมาในตัวถังแบบ Body on frame ที่เน้นเรื่องความแข็งแรงและการเป็นรถปิคอัพพันธุ์แท้พร้อมลุย ที่ยึดเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน การเสริมชุดกันกระแทก กับการเสริมความปลอดภัยให้แบตเตอรี่

การติดตั้งระบบหล่อเย็นให้แบตเตอรี่ ไปจนถึงระบบตัดไฟอัตโนมัติ ชุดอินเวอร์เตอร์ และออนบอร์ดชาร์จเจอร์ และชุดมอเตอร์ถอดแยกชิ้นได้ ซ่อมบำรุงง่าย ลดค่าใช้จ่ายได้ ยามเสียหาย

ลองขับแบบ On Road พวงมาลัยไฟฟ้า คุมง่าย แม่นยำ เกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์สวย ขุมพลังไฟฟ้าแบบ Dual Motor ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 196 แรงม้า ทำงาน เก็บอาการของตัวรถได้ เงียบ การได้ปิคอัพอารมณ์ไฟฟ้าหรู ทำให้คุณลืมเสียงการทำงานที่ดังของเครื่องยนต์ในแบบดีเซล ไปเลย การออกตัว และการคุมรถ การเร่งแซง ทำได้เนียน แรง มั่นใจใช้ได้ทุกสภาพถนน ได้ฟิลลลล การขับแบบรถไฟฟ้า จริง ๆ แต่อาจจะไม่ใช่รถ ปิคอัพ แบบยกสูง 4 ประตูที่เน้นในเรื่อง Performance การขับขี่ และความคล่องตัวของตัวรถ  รวมทั้งในเรื่องของการใช้ความเร็วสูง

ด้วย น้ำหนักตัวรถรวม ที่มาจากทั้ง แบตเตอรี่ ชุดป้องกันความปลอดภัย รวม 2 ตัน!!  และการเซ็ตช่วงล่างให้รองรับ เผื่อสำหรับการบรรทุก ขนของด้วย ตอนหลังจึงไม่สบายมากนัก ถ้าเทียบกับ Travo Overland 

 

สเปกความจุแบตฯ  59.2 กิโลวัตต์ (ถ้ามีการบรรทุกด้วย ) ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ ประมาณ 250 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะน้อยไป นิด ถ้านำมาเทียบกับการใช้งานของรถกระบะทั่วไป ส่วนอัตรากินไฟที่อยู่ที่ 24.7 kWh/100 กม. 

แต่ถ้ารู้ที่มาของรถรุ่นนี้ คือการที่ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เข้าโครงการ EV 3.5 นำเข้า Toyota BZ4X จากญี่ปุ่น และ ผลิตกระบะไฟฟ้า 100% Hilux TRAVO-e คืนตามเงื่อนไข ผลิต 5,000 คัน ซึ่งตั้งเป้าขายในไทย 500 คัน/ปี และ ส่งออกไปยุโรป ชิ้นส่วน Local Content ในประเทศ 95% รถรุ่นนี้จึงอาจเป็นการบ้านด่วนของ Toyota ในการผลิต จึงอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของสเปคบางอย่าง แต่โดยรวมการขับขี่แบบ On road ก็ถือว่าใช้ได้ครับ

ซึ่งถ้าถามว่า  TRAVO-e เหมาะกับใคร? 

ก็มองได้หลายกลุ่มครับ ทั้งกับองค์กรที่มีรถหลายคัน/วิ่งเส้นทางประจำ วันละไม่เกิน 250 กม. และกลับมาชาร์จที่จุดขององค์กรได้ หรือจะเป็นรถใช้งานเชิงพาณิชย์ SME ต่าง ๆ หรือจะเป็นรถบริษัท ที่ต้องการลดต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าดูแลระยะยาว รวมไปถึงถ้าฉีกไปเลย ก็น่าจะเป็นอีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มไลฟ์สไตล์ เจ้าของธุรกิจ คนรุ่นใหม่ ที่ อยากใช้รถกระบะแบบรักษ์โลกชิค ๆ ดูคูล ๆ อันนี้ก็น่าจะเหมาะ เพราะคุณจะได้ความมั่นใจในแบรนด์ และศูนย์บริการแน่นอนครับ

Hilux TRAVO-e (4TREX AWD)

ราคา : 1,491,000 บาท

สีตัวถังภายนอก 2 สี

 - สีขาว Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

- สีเทา Ash

และภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ Black

*การรับประกันหลังการขายจากโตโยต้าครบจบ 

- รับประกันแบตเตอรี่ High-voltage 8 ปี หรือ 160,000 กม.

- รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม.

- เข้าศูนย์ได้ 450 สาขาทั่วประเทศ