ขับ New Mazda CX-5 2.0 SP ไปชมเขื่อนกระเสียว
เขื่อนดินที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศ
ทดลองขับโดย ภัชรี เอกฉัตร์
หลังได้ยลโฉม รีวิว การปรับปรุงใหม่ ของรถยนต์ Mazda CX-5 กันไปหลายระลอกแล้ว วันนี้ A Car News มีโอกาสได้ฉกฉวย รถรุ่นใหม่ลำนี้ มาขับไปชาร์ตแบตเตอรี่ กันที่สุพรรณบุรี (มาสด้าไม่ได้ชาร์ตแบตนะ เพราะเค้าเป็นเครื่องยนต์สันดาป คนขับต่างหากที่ต้องมาชาร์ต เติมพลังงาน ^_^)
สำหรับ NEW MAZDA CX-5 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,299,000 บาท เป็นตัวท็อปมีหลังคาซันรูฟ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 1,998 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 14.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง อิเล็กทรอนิกไดเร็คอินเจ็คชั่น (Electronic Direct Injection) อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.9 กม./ลิตร ระบบเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic
ที่ช่วยให้การขับขี่วันนี้ คล่องแคล่ว ว่องไว ด้วย DNA ของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เล็กแต่รีดพลังสูง ช่วยให้เราทำเวลาในการเดินทางได้ปรูดปร๊าดมากยิ่งขึ้น ทุกเร่งแซง หายห่วง ไม่ต้องมานั่งลุ้นกันให้ติดขัดหาวเรอ (ยืมวลีเด็ดของอัลคาโปน / ไทยรัฐมาใช้เลยนะนี่) MAZDA CX-5 นับเป็นเอสยูวี คอมแพ็ค ขนาดกลาง ที่มี FC ขับกันมากมาย ไม่เป็นรองค่ายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ด้วยความทะมัดทะแมงของรถ ช่วยคนขับได้เยอะ แม้ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงด่านช้าง เขื่อนกระเสียว 190 กว่ากิโลเมตร ในวันนี้สารถีมามือเดียว ขับง่าย ขับสบาย ขับคล่อง ไม่ง้อผู้โดยสารให้ช่วย ยิงยาวตัวปลิว แวะแค่เช็คอินห้องน้ำ รอบ สองรอบ ก็ถึงที่หมายสบายผิดกัน 555
รูปลักษณ์ภายนอกของ MAZDA CX-5 กระจังหน้าสีดำแบบเปียโน ทั้งนี้ขอบกันชนหน้าและหลังก็เป็นสีดำ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ส่วนไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า และที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง ปรับอัตโนมัติ ส่วนกระจกมองข้างปรับ พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ปรับขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติทั้ง 4 บาน สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต พร้อมปลายท่อโครเมียม โดยรวมภายนอกให้ความรู้สึกสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร วัสดุหุ้มเบาะนั่ง : เบาะหนังสีดำ พนักวางแขนบนแผงประตู และฝาปิดช่องใส่ของคอนโซลกลางเดินด้ายสีน้ำตาล เช่นกัน นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหน้าในตำแหน่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า ส่วนเบาะนั่งด้านหน้าผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหน้า : ระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะนั่งคนขับ 2 ตำแหน่ง และเบาะนั่งด้านหลัง : พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมปุ่มควบคุมจากห้องเก็บสัมภาระ ทั้งนี้เบาะนั่งด้านหลัง : พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้
ในส่วนของวัสดุหุ้มพวงมาลัยเป็นหนังสีดำ วัสดุหุ้มหัวเกียร์หนังสีดำ พร้อมตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า : สีดำเปียโน วัสดุตกแต่งสวิตช์ปรับกระจกมองข้าง และกระจกไฟฟ้า สีเงินซาตินโครม ส่วนมาตรวัดความเร็ว : แบบดิจิตอล พร้อมจอแสดงผลแบบสีขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift) พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button) กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
อีกทั้งแผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่าง ที่วางแก้วน้ำที่คอนโซลกลางด้านหน้า พนักวางแขนด้านหลัง และประตูหน้า-หลัง ช่องจ่ายไฟ 12V 3 ตำแหน่ง พร้อมช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง บริเวณพนักวางแขนเบาะหลัง ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี แผ่นปิดสัมภาระด้านท้าย รวม ๆ อัดแน่น มาให้อย่างคุ้มค่า
มากันทีเทคโนโลยี และระบบช่วงล่าง Skyactiv-Vehicle Dynamics: ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ถือว่าเป็นเลิศโดดเด่นกว่าเพื่อน ๆ ในคลาสเดียวกัน ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP สวิตช์ Drive Selection (Sport Mode) ระบบเบรก : หน้าดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน ระบบเบรก : หลัง ดิสก์เบรก ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS) และระบบกันสะเทือน : หน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง รวมถึงระบบกันสะเทือน : หลัง อิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ขนาดยาง 225/55 R19 มาพร้อมล้ออัลลอย 19 x 7J
ในส่วนของระบบ Infotainment ก็เป็นจุดนึงที่มีความสำคัญสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยให้การเดินทางเพลิดเพลิน และผ่อนนคลายได้ หากระบบต่าง ๆ ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี MAZDA CX-5 มาพร้อมหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับระบบ Apple CarPlay® แบบไร้สาย และระบบ Android Auto™* วิทยุ FM/AM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ (Bluetooth) และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition)
พร้อมด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ บนพวงมาลัย โดยเฉพาะเครื่องเสียง ระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง สร้างความบันเทิงตลอดการเดินทางได้ดี
มาที่เทคโนโลยีความปลอดภัย ก็ใส่มาให้ได้จุก กุญแจนิรภัย (Immobilizer) สัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อกและปลดล็อกประตูอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go)
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS: Advanced Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System) และอื่นๆอีกมากมาย เรียกว่าจดจำกันไม่หมด
หลังขับโดยส่วนตัว ที่ชอบที่สุดคือเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ทำให้การเดินทางเกือบ 200 กม. ยังมีแรงเหลือ ขับต่อได้ ถ้าใครที่ชื่นชอบการขับรถเดินทาง แนะนำ MAZDA CX-5 ตอบโจทย์การเดินทางจริง อีกทั้งก็ยังบรรทุกของได้เหลือ ๆ ไม่ต้องกระโดดไปขับคันที่ใหญ่กว่านี้ เท่านี้คือพอ เหลือเฟือจริง ๆ อย่างที่เล่าไว้ในข้างต้นว่าการเดินทางครั้งนี้ เราสตาร์ทกันที่ลาดพร้าว วิ่งยาว ๆ ทะลุมาถึงรัตนาธิเบศร์ จากนั้นใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ยิงยาว ผ่านบางเลน เข้าลาดบัวหลวง และตรงดิ่ง ๆ ยาว ๆ เข้าเมืองสุพรรณบุรี วันนี้เราขอเลือกเส้นทางชิลในอีกรูปแบบหนึ่ง ปกติเราจะไปไหว้พระ ไหว้เจ้า ขอพร วันนี้ขอชิลเส้นทางธรรมชาติ ขึ้นไปชมทัศนีย์ภาพแบบพาโนราม่า ที่เขื่อนกระเสียว เขื่อนดินที่ใหญ่เป็นลำดับสองของประเทศไทย รองจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ที่แห่งนี้นอกจากประโยชน์ในเรื่องของการกักเก็บน้ำ เพื่อปกป้องน้ำท่วมเข้าสู่เมืองกรุงแล้ว ยังช่วยเหลือชาวบ้านร้านตลาดแล้ว ยังนำน้ำที่กักเก็บไว้ปล่อยให้เกษตรกรรมใช้ในช่วงฤดูน้ำแล้งได้อีกด้วย นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อีกด้วย รอบ ๆ เขื่อนก็ยังมีอ่างเก็บน้ำมากมาย เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ ลานกางเต้นท์มากมาย ช่วยทำให้เมืองรอง ที่เศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีกิจกรรมมากมาย ไว้รองรับนักท่องเที่ยวไทยและเทศ ด้านบนของเขื่อนยังที่พักพลับพลาของรัชกาลที่ 9 ไว้ให้เราได้แวะเวียนชมความงามของเรือนพัก ต้นไม้นานาพันธุ์ และบ่อปลาคาราฟ์ รวมทั้งจุดชมวิว เบิร์ดอายวิว ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สุดสัปดาห์นี้นักท่องเที่ยวท่านใด อยากตามรอยก็ปักหมุดแผนที่ได้เลย เขื่อนกระเสียว ด่านช้าง สุพรรณบุรี