“ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” กับ 2 ขุมพลัง

ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และ VTEC TURBO

บนเส้นทางกรุงเทพฯ-สิงห์บุรี ลองความแรงและประหยัดน้ำมัน

 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” ซิตี้คาร์ยอดนิยม ที่อยู่ในตลาดมาถึง 27 ปี กับการปรับปรุงโฉมครั้งนี้ ให้ดูหล่อ เท่ ครบครัน มากยิ่งขึ้น ในครั้งนี้มาให้คุณเลือก 2 ขุมพลัง ไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ  4 สูบ 16 วาล์วแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีประสิทธิภาพสูง มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เกินคลาส กับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร มีด้วยกัน 5 รุ่นย่อย

 

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย

- รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

- รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย

- รุ่น RS ราคา 749,000 บาท

- รุ่น SV ราคา 679,000 บาท

- รุ่น V ราคา 629,000 บาท

 

การทดลองขับขี่ในครั้งนี้ ใช้เส้นทางที่สะท้อนทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน จากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดสิงห์บุรีรวมระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร โดยสตาร์ทกันที่ บริษัทฯ เสรีไทย 87 หมุดหมายแรกคือ ปั๊มน้ำมันเชลล์ ปทุมธานี-บางปะหัน ระยะทาง 77 กิโลเมตร จุดเช็คพอยท์สำหรับผู้ขับขี่ท่านแรกกับการขับแบบประหยัดน้ำมัน สำหรับอะคาร์ วันนี้มากับบัดดี้รุ่นน้อง จากเลดี้ไดร์ฟ โดยพี่เสียสละให้น้องขับก่อน ให้ปั่นแต่งการขับเนียน ๆ กริบให้พี่ทดลองตาม ต้องบอกก่อนว่าพี่ห่างหายกับการทดลองการขับประหยัดไปหลายปีดีดัก ดังนั้นขอเรียนรู้เทคนิคจากน้องก่อน 555

 

การทดสอบในวันนี้ จับคู่กัน 2 สื่อ โดยฮอนด้า ซิตี้ ที่นำมาร่วมทริปมี 2 รุ่น คือ ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV กับขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ จัดจ้าน ทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นของดีไซน์ใหม่รอบคัน ที่ยกระดับความสปอร์ตไปอีกขั้น ด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า กันชนหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ สัมผัสประสบการณ์ความสะดวกสบายตลอดการเดินทางด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย พร้อมภายในสีใหม่ เพิ่มความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีความสะดวกสบายอันล้ำสมัย ใช้งานง่าย สำหรับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีประสิทธิภาพสูง มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เกินคลาส กับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ออกตัว และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 27.8 กิโลเมตร/ลิตร

 

ในส่วนของขุมพลัง VTEC TURBO เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ลงตัวและตอบโจทย์ทุกการขับขี่ ด้วยความแรง เร้าใจ เร่งแซงได้ทันใจในทุกย่านความเร็ว และประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร มั่นใจทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างลง ความเด่นอีกประการของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ทุกรุ่นคือระบบ Honda SENSING ถือเป็นการทำงานที่แม่นยำ ง่าย สะดวกสบายต่อการใช้งาน

 

เข้าเรื่องการทดลองขับต่อดีกว่า ในวันนี้เราได้ขับรถฮอนด้า ซิตี้ วีเทค เทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ในช่วงเช้าของการขับขี่แบบประหยัด อย่างที่บอกแล้วในข้างต้นว่า พี่เสียสละให้น้องขับก่อน ระยะทาง 77 กม. จากเสรีไทย ใช้มอเตอร์เวย์ ยิงยาว ๆ ไปหมุนขึ้นสะพาน เพื่อวิ่งสายเอเซีย ไปอยุธยา จากการปั่นแต่งเนียนกริบมาโดยตลอด มาเสียเวลากับรถติดช่วงนี้เกือบ 10 นาที พอดีมีรถเสีย และรถใหญ่เยอะแยะมากมาย ระเกะระกะเต็มถนนไปหมด อัตราสิ้นเปลืองจากช่วงแรก 25 กว่า ๆ ค่อยเพิ่มขึ้น จนต้องขับปรับแต่งกันอีกรอบ และเราก็มาเพี้ยนเส้นทางอีกครั้ง ก่อนเข้าไปที่ปั๊มบางปะหัน ทำให้เวลาคันเราถูกยืดไปอีก แต่ยังคงเป็นตัวเลขที่สวยงาม มากกว่าตัวเลขที่เคลมในสเปค 555

 

เมื่อเข้าจุดหมายแรก บวก ลบ คูณ หารเวลา กับระยะทาง 55 กม. แต่เวลาเหลือ 1 ชม. จากเวลาที่กรรมการให้ 2.30 ชม. ถ้าจะไม่รอด ไม้สอง ดิชั้นต้องเปลี่ยนการปรุงแต่งเรือนไมล์ โดยน้องบัดดี้แนะนำให้ใช้ครุยส์ มาช่วยในการจัดการ ซึ่งช่วยได้ดีมาก เราไม่เบรกเลย แต่ใช้ลดตัวเลขครุยส์ลง มันจะหน่วงขึ้น  แต่เวลาที่เหลือน้อย ทำให้เราต้องใช้ความเร็วมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกินเวลา เพราะถ้าเกินจะโดนตัดสิทธิ์ทันที ต้องแลกแล้วครับ เมื่อเห็นพ้องกัน เราจำเป็นต้องเหยียบคันเร่งทำเวลา แต่ก็ขับไม่ได้เร็วเกินอัตรากำหนด 120 กม./ชม. นัก เพราะเกรงใจเพื่อนร่วมทาง พยายามเร่งแซงขึ้นมาให้เวลาได้ตามการคำนวนของทีมเรา และเราก็ทำได้ครับ เข้าทีซีด้วยเวลาที่เหลืออีก 1 นาที สุดยอด แต่อัตราประหยัดน้ำมัน โดดขึ้นมา 21.5 กม./ชม. ไม่เป็นไรกรรมการต้องเอาไว้เฉลี่ยกับไม้แรก ซึ่งเราวิเคราะห์มาแล้วว่าไม่น่าเกลียด ไม่ใช่เวลาคันสุดท้ายในขบวนแน่นอน อิอิ

 

เข้าสถานีนี้เติมพลังท้องกับร้านอาหารกุ้งเผาทองชุบ มีกุ้งกร้ามโตเป็นรางวัล และในช่วงบ่ายเปลี่ยนคันไปขับ ฮอนด้า ซิตี้ ฟูลไฮบริด e:HEV ขากลับระยะทาง 125 กม. ไม่มีแรงกดดันจากขับประหยัด เราก็ขับกินลม ชมวิว ลองโหมดโน้นี่นั่น นิดหน่อย พอหอมปากหอมคอ บอกได้เต็มปากเต็มคำว่า เป็นรถยนต์คลาสคอมแพ้กที่น่าใช้มาก ทั้งสองรุ่น โดยเฉพาะ e:HEV สำหรับผู้ขับขี่ที่อยากใช้รถพลังงานไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ ก็ลองมาขับรถลักษณะนี้ก่อน ได้ลองปรับตัว ไปก่อน ก็ไม่เสียหาย ที่สำคัญขับรถยนต์ฮอนด้า ไม่ต้องกังวลเรื่องบริการหลังการขาย ศูนย์ซ่อม อะไหล่ มีมากมายไม่ต้องคิดมาก

 

ก่อนตีรถกลับเสรีไทย แวะจิบกาแฟฟิน ๆ ที่ร้าน @Moso Yodia Café & Bar  ร้านน่ารัก สไตส์ญี่ปุ่น เครื่องดื่มอร่อย ขนมถูกปาก ตกแต่งสวย จบเหมาะแก่การเช็คอิน เติมความหวานก่อน คืนรถ สรุปสั้น ๆ สำหรับหน้าตาที่ปรับแต่งมา สวย ทันสมัย สปอร์ตยิ่งขึ้น ภายในก็มีความสปอร์ต เรซซิ่ง และสำคัญมีระบบ ฮอนด้า เซนต์ซิ่ง มาเติมสาระประโยชน์ในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น จริง ๆ