MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV

รถครอบครัวขนาดเล็กที่ครบครัน

 

ทดลองขับโดย ภัชรี เอกฉัตร์

 

ซัมเมอร์!! เทศกาลแห่งการท่องเที่ยว หลบลมร้อน โหยหาอากาศเย็น แอดมิน มีโอกาสได้นำรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ของค่ายมิตซูบิชิมาลองขับเล่นชิลๆ เพลินๆ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ยอดขายไม่ธรรมดาจากงานมหกรรมยานยนต์ในปลายปี 2567 ส่งมอบให้กับผู้จองกันพัลวัน เป็นรถที่คุ้มค่า คุ้มราคา แถมไม่ต้องกังวลมากเวลาใช้งาน

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ในเจนนี้มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด ผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไว้อย่างลงตัวที่สุด แถมชูจุดเด่น 3 สุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และมั่นใจในทุกเส้นทาง แบบ Mitsubishi e:MOTION

 

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รุ่นใหม่ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและเทคโนโลยีระบบควบคุมการขับเคลื่อนนับอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คือการผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไว้อย่างลงตัว  เนื่องจากต่อยอดการพัฒนาขึ้นใหม่ จากระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) เพื่อมอบสุนทรียภาพแห่งการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งอัดแน่นด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

ยังไม่พอ ยังมีความเด่น ของระบบควบคุมการขับเคลื่อน ที่สมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ที่ทำงานสอดผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มอบความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยสมรรถนะการควบคุมรถที่เหนือชั้น พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย จะช่วยเสริมสมรรถนะการเกาะถนน และช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดายและคล่องตัวบนทุกสภาพถนนและทุกสภาพอากาศ ในขณะเดียวกันผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่เป็น EV Priority ได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ อาทิ ต้องการเดินทางอย่างเงียบสงบ หรือเคลื่อนตัวได้โดยไม่สร้างเสียงรบกวนในหมู่บ้านยามเช้าตรู่

รวมทั้งโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ ได้ตามต้องการ ซึ่งให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน

แถมโดดเด่นเหนือระดับยิ่งกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ตอบโจทย์การเดินทางกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน พร้อมดีไซน์ภายนอกสุดเท่ อันเป็นเอกลักษณ์

 

 

แอดมินขอขยายความระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เอชอีวี  รูปแบบการขับขี่แบบ EV (พลังงานไฟฟ้า 100%) ซึ่งมิตซูบิชิเขา ปรับรูปแบบการขับขี่แบบไฮบริด และระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือ Regenerative Braking จึงโดดเด่นในด้านอัตราประหยัดน้ำมัน พร้อมมอบความสนุกแห่งการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถปรับเข้าสู่รูปแบบการขับขี่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การขับขี่ และพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ ณ ขณะนั้น ถือว่าดีและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างจริงจัง

อธิบายง่าย ๆ เมื่อเริ่มออกตัว และขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ตัวรถจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เป็นรูปแบบการขับขี่แบบ EV (พลังงานไฟฟ้า 100%) ทำให้สามารถขับขี่ด้วยด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ จากนั้นระบบการทำงานจะเปลี่ยนไป ในขณะที่ขับรถขึ้นเนินที่ลาดชันหรือในขณะที่เร่งความเร็ว ระบบจะทำการปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด โดยใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ได้รับการปั่นไฟฟ้าให้เกิดพลังงานจากเครื่องยนต์

เมื่อผู้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ตัวรถจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อน เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานอย่างนุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮาก ผู้ขับขี่จะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของระบบมากนัก ยังคงความสะดวกสบาย แม้การทำงานจะอยู่ในโหมดไฮบริด และเมื่อชะลอความเร็ว ตัวรถจะเข้าสู่รูปแบบ Regenerative Braking ซึ่งเป็นระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรก จึงสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อเก็บสำรองพลังงานไว้ในแบตเตอรี่

 

 

ทั้งนี้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) จึงมอบการขับขี่ที่เงียบสงบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในแบบของรถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันเชื้อเพลิง และปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปพร้อม ๆ กับการมอบการขับขี่ที่สะดวกสบายในแบบของรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ที่ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ทางไกล โดยไม่ต้องกังวลถึงพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ ขณะเดินทางไกลไปต่างจังหวัดช่วยให้ผู้ขับขี่สบายใจ ปลอดภัย โล่งใจ ตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะผู้ใช้รถที่เป็นครอบครัวใหม่ ที่มีลูกเด็กเล็กแดง หรือครอบครัวที่มีน้องหมา น้องแมว หรือแม้กระทั่งครอบครัววัยทำงาน ที่ยังชื่นชอบกับการทำกิจกรรม แอดมินว่ามิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวีคือใช่เลย ไม่เชียร์นะ แต่ชอบเลยบอกต่อ 555

ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด มอบอัตราเร่งที่ทรงพลัง ไหลลื่นไม่มีสะดุด ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC โดยมีแบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ตอบสนองต่อแรงบิด 255 นิวตันเมตรได้อย่างรวดเร็วเมื่อออกตัว และให้อัตราเร่งที่ทันใจเมื่อกดคันเร่ง ผู้ขับขี่จึงสามารถเปลี่ยนเลนบนทางด่วนได้อย่างราบรื่นไร้กังวล และกลับรถบนถนนในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นได้อย่างสะดวกง่ายดาย

เครื่องยนต์เบนซินที่ได้รับการพัฒนาใหม่ขนาด 1.6 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว 4 มีอัตราส่วนการขยายตัวสูง (วงจร Atkinson) พร้อมกับมีประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่สูงกว่าด้วยการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้าเพื่อลดการสูญเสียทางกล ช่วยเสริมให้อัตราประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์ดีขึ้น กว่าเดิมราวร้อยละ 34 สำหรับการขับขี่ในเมือง และให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นกว่าเดิมราวร้อยละ 15 สำหรับการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง เมื่อดำเนินการทดสอบตามมาตรฐานการวัดระยะทางรถยนต์ไฟฟ้าแบบ NEDC 

 

 

อีกจุดเด่นของโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบนี้ก็เลิศ ทั้งโหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมดและอีก 5 โหมดสำหรับพื้นผิวถนนที่มีสภาวะแตกต่างกันตามภูมิประเทศและภูมิอากาศ เพื่อสมรรถนะสูงสุดในการขับขี่และการควบคุมตัวรถที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ

ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้โหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมด ได้ทุกเมื่อตามที่ต้องการ ซึ่งประกอบด้วย EV Priority Mode ที่ขับเคลื่อนรถด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ โดยปราศจากการทำงานของเครื่องยนต์ โหมดนี้ทำงานอย่างเงียบสงบ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับเข้าสู่ Charge Mode เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ทุกเวลา ทั้งในขณะที่ตัวรถกำลังเคลื่อนที่หรือขณะหยุดนิ่ง เพื่อให้สามารถกลับมาสนุกกับการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้อีกครั้ง

สำหรับในโหมดการขับขี่อีก 5 รูปแบบ ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดในการขับขี่และการควบคุมตัวรถที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำบนพื้นผิวถนนที่มีสภาวะแตกต่างหลากหลายตามภูมิประเทศและภูมิอากาศ โดยพัฒนาระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าให้ดียิ่งกว่ารุ่นเดิม ผสานกับระบบควบคุมการขับขี่ต่าง ๆ ทั้งระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นการควบคุมแรงเบรกระหว่างล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวาให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่  ช่วยให้การเดินทางไกลแบบขึ้นเขา เข้าโค้ง ทำได้เนียน กริบ อย่างไม่น่าเชื่อ อวยอีกแล้ว อิอิ แอดมินเรียกว่าบอกต่อดีกว่า ว่ามันดี แล้วชั้นชอบ ส่วนใครลองแล้วจะชอบหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่พฤติกรรมของแต่ละคนเนอะ ไม่ขิงกัน

  

 

ส่วนระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL) ที่ช่วยตรวจจับอาการลื่นไถลของล้อหน้าและควบคุมพละกำลังการขับเคลื่อน  ระบบควบคุมอัตราเร่ง (Acceleration Control) ที่ช่วยปรับกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้ทำงานสอดประสานอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อมีการกดคันเร่ง  และระบบควบคุมน้ำหนักพวงมาลัย (Steering Control) ที่ช่วยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้ตอบสนองได้ดั่งใจตามความเร็วและสภาพพื้นผิวถนน เลือกใช้กันได้ตามความเหมาะสม

- Normal Mode เป็นโหมดที่สมดุลและเหมาะสมที่สุดสำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน

- Wet Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น โดยช่วยป้องกันการลื่นไถล ให้การควบคุมที่มั่นใจและเกาะถนนเป็นเลิศแม้ขณะฝนตกหนัก

- Gravel Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางทางลูกรัง เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นและขรุขระ

- Tarmac Mode เหมาะกับการขับขี่บนถนนลาดยาง ที่ให้พละกำลังและการควบคุมการขับขี่ที่คล่องตัว มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ แม้บนถนนที่คดเคี้ยว

- Mud Mode ทางโคลน เพิ่มการตอบสนองและการควบคุมที่ทรงพลังบนถนนดินโคลนสมบุกสมบัน

โหมดการขับขี่ทุกรูปแบบสร้างขึ้นเพื่อมอบความปลอดภัยและสะดวกสบายบนทุกสภาพถนนและสภาพอากาศ ซึ่งผู้ขับขี่ต้องพบเจอเป็นประจำ ๆ ไม่เจอก็ไม่ต้องใช้ เดี๋ยวจะเป็นการเลือกใช้งานไม่ถูกจุดประสงค์ จะทำงานได้ไม่ตอบโจทย์ไปซะ

 

เม้าส์มอย หอยสังข์ มาถึง ภายในห้องโดยสาร  ก็เข้าท่าเข้าทาง ไม่โบราณ  แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก สมน้ำ สมเนื้อ สมราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลหลากหลาย ใช้งานได้ง่าย โดยจะแสดงข้อมูลสำคัญเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด อาทิ แสดงรูปแบบการขับขี่ที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การขับขี่และอัตราเร่ง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน อัตราการประหยัดพลังงานเมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ระดับพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี โดดเด่นเหนือระดับยิ่งกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ตอบโจทย์การเดินทางกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน พร้อมดีไซน์ภายนอกสุดเท่ อันเป็นเอกลักษณ์  ตามข้อมูลประชาสัมพันธ์ ถือว่าไม่ได้โม้จนเวอร์วัง ถือว่าอยู่ในวิสัยที่ค่อนข้างจริงหุหุ

อีกจุดหนึ่งที่ถือว่าเด่น สำหรับแอดมินเอง คือดีไซน์หัวเกียร์ใหม่แบบ Electric Shift ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระบบเกียร์ไฟฟ้า (Shift-by-Wire) อันทันสมัย เพิ่มความสะดวกสบาย ใช้งานได้ง่าย

ในส่วนของชุดแบตเตอรี่ขับเคลื่อนของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอี ติดตั้งไว้ใต้พื้นบริเวณเบาะนั่งคู่หน้า จึงทำให้รถยังคงมีพื้นที่ห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว ซึ่งกว้างขวางที่สุดในบรรดารถยนต์ระดับเดียวกัน พร้อมรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ด้วยขนาดตัวถังที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางในเมือง ทั้งนี้ห้องเครื่องยนต์และบริเวณรอบชุดแบตเตอรี่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยชุดแบตเตอรี่ยังได้รับการปกป้องด้วยคานรับด้านหน้าและคานขวางด้านหน้า เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานของตัวถัง พร้อมด้วยการพัฒนาช่วงล่างและระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหมดเป็นพิเศษ ที่ทำให้รถยนต์ระบบขับเคลื่อนไฮบริดรุ่นนี้มีเสถียรภาพการขับขี่ที่เหนือชั้นและความสะดวกสบายที่เป็นเลิศ ประสิทธิภาพของระบบเบรกยังได้รับการปรับปรุงใหม่ ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นและชะลอความเร็วอย่างมั่นใจ ด้วยดิสก์เบรกครบทั้ง 4 ล้อ

 

 

ส่วนของภายนอกของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี  โดดเด่นด้วยโลโก้ “HEV” ที่กระจังหน้าและฝาประตูท้าย พร้อมด้วยโลโก้ “HYBRID EV” ที่ประตูหน้า และการตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินที่กันชนหน้า กาบข้างประตู กันชนหลัง และล้ออัลลอยแบบทูโทนทั้ง 4 ล้อ  โดยมีราคาขายที่  961,000 บาท

โดยรวม ๆ ของการลองขับในระยะทางไกลระดับหนึ่ง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กอีกรุ่นนึงที่ ยกนิ้วโป้งให้ ในหลาย ๆ ฟังก์ชั่น และถือเป็นรถที่คุ้มค่าในมุมมองของแอดมินเจ้าค่ะ ส่วนผู้บริโภคจะถูกใจหรือไม่ คงตัดสินใจแทนให้ไม่ได้ ไปชม ไปลองกันเองแล้วกันนะจ๊ะ ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ แม้จำนวนศูนย์บริการเขาจะลดลง  เจ้าของแบรนด์ฝากบอกว่าแต่คุณภาพไม่ได้ลดตามนะครับ...