NEW MG4 ELECTRIC

รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100%

 

NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ถือเป็นอีวีสายพันธุ์แท้ด้วยนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCH

ครั้งแรกของ NEW MG4 ELECTRIC กับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับความสามารถในการนำไปปรับใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาด ตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดานไปจนถึงรถกระบะ รวมถึงรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ

 

NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อมดีไซน์ภายนอกสปอร์ต โฉบเฉี่ยวในทุกการเคลื่อนไหวด้วยการออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER มิติตัวถัง 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

 

 

ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก เพื่อให้ดูโปร่งโล่งสบาย คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C ระบบกรองอากาศ PM2.5 เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40 โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ

 

NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE)  ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ5-Link Suspension โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW

*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)

 

NEW MG 4 ELECTRIC มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ ได้แก่

- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH

- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD

- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA

- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS

- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC

- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS

- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS

- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW เข้าไว้ด้วยกัน

- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW

- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB

- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA

- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD

- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA

- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW

- ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB

- ระบบเปิด

- ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC

- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS

- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง

 

 

NEW MG 4 ELECTRIC มีระบบการชาร์จ  2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ

- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh

- ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* ที่ 6.6 kWh

รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

พร้อมด้วย ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ เอ็มจี ที่ประกอบด้วย

ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)

- ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น

- ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car

- ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์

- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ

ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)

- กุญแจดิจิตอล

- ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย

- ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน

- ระบบโทรออก

–  รับสายกรณีฉุกเฉิน

- ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน

ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)

- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time

- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง

- อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์

- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง

-อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ

- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน

* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

NEW MG4 ELECTRIC มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X