Lamborghini Fenomeno ดีไซน์สุดล้ำ

ขุมพลัง V12 แรงสุดในประวัติศาสตร์

  

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ภูมิใจเสนอ “Fenomeno” สุดยอดรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 29 คัน ในโอกาสการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญของแบรนด์ โดยโชว์ความโดดเด่นทั้งสมรรถนะ นวัตกรรมทางเทคนิคที่เหนือระดับ และการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ระดับไอคอนิกของลัมโบร์กินี เซนโทร สไตล์ (Lamborghini Centro Stile) ซึ่งเป็นผู้นำเสนอรถยนต์คันแรกที่ออกแบบโดยแผนกออกแบบของโรงงานซัง'อกาตา โบโลนเญส ในช่วงแรกของการก่อตั้งเมื่อ กว่า 20 ปีก่อน

 

Fenomeno คือ การประกาศเจตนารมณ์แห่งงานดีไซน์ (Design Manifesto) ในแบบฉบับดั้งเดิมของลัมโบร์กินี เพื่อยกระดับองค์ประกอบด้านการออกแบบอันโดดเด่นของแบรนด์ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น นอกจากงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และระบบอากาศพลศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ Fenomeno ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบกำลังเครื่องรวมถึง 1,080 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 แบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติให้กำลังเครื่องสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 835 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ทำให้ Fenomeno คือนิยามแห่งขุมพลังที่สูงเกินขีดจำกัดซึ่งยังไม่เคยปรากฏมาก่อน ผู้ขับขี่ยังจะได้สัมผัสกับโซลูชันทางเทคนิคขั้นสูงที่ติดตั้งมาในลัมโบร์กินีเป็นครั้งแรก อาทิ เซ็นเซอร์ 6D และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus

 

ดีไซน์ภายนอกตัวรถด้านหน้าโดดเด่นด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและกระชับเข้ากับพื้นผิวขนาดใหญ่แนวสปอร์ต ฝากระโปรงหน้ามีช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่สองช่อง ไฟ DRL สไตล์ซิกเนเจอร์ดั้งเดิมก็สะท้อนถึงส่วนเขาของกระทิงในโลโก้ลัมโบร์กินี โดยโลโก้ลัมโบร์กินีแบบใหม่ซึ่งได้เผยโฉมไปเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดตัวบนรถซูเปอร์สปอร์ตจากโรงงานซัง'อกาตา โบโลนเญส ในรุ่นนี้ โดยเสริมความโดดเด่นให้กับด้านหน้าของตัวรถที่ผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีไว้ด้วยกัน เช่น รูปทรงตัว Y ที่ประกอบเข้ากับสปลิตเตอร์ด้านหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์อย่างลงตัว รวมถึงดีไซน์อันเฉียบคมของชุดไฟ

 

Fenomeno โดดเด่นด้วยระบบอากาศพลศาสตร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถัน อันเป็นผลมาจากการวิจัยเพื่อสร้างประสิทธิภาพและสมรรถนะที่ดีที่สุดในทุกสภาพการขับขี่ โดยชิ้นส่วนที่ประกอบเข้ากับสปลิตเตอร์หน้าช่วยสร้างม่านอากาศสองชุดที่ควบคุมทิศทางการไหลของอากาศให้ขนานไปกับล้อ ซึ่งช่วยลดแรงต้านอากาศพร้อมเพิ่มมวลอากาศให้ไหลไปยังหม้อน้ำในเวลาเดียวกัน

ระบบ S-Duct ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถช่วยเพิ่มแรงกดตามหลักอากาศอากาศพลศาสตร์บริเวณด้านหน้า จึงมั่นใจได้ถึงพลวัตของรถที่สมบูรณ์แบบในการขับขี่แนวสปอร์ต และยังช่วยนำอากาศไหลเข้าสู่กึ่งกลางหลังคาผ่านช่องบนฝากระโปรงหน้า ด้วยรูปทรงเว้าของหลังคาทำให้การไหลเวียนของอากาศมีความหนาแน่น

ดีไซน์ประตูแบบใหม่ก็มีบทบาทสำคัญในด้านอากาศพลศาสตร์ โดยช่วยนำอากาศไหลเข้าสู่ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ด้านข้าง ทำให้มั่นใจได้ถึงการระบายความร้อนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ท่อ NACA แบบใหม่ ระบายความร้อนด้านข้างที่ดีขึ้นกว่าเดิม 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ Lamborghini V12 รุ่นผลิตทั่วไป ดีไซน์เทอร์ไบน์ของล้อแม็กฟอร์จแบบน็อตเดี่ยว (ล้อหน้า 21 นิ้วและล้อหลัง 22 นิ้ว) ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยติดตั้งร่วมกับยางรุ่น Bridgestone Potenza Sport ขนาด 265/30 ZRF21 และ 355/25 ZRF22

 

 

ภายในห้องโดยสารสะท้อนถึงแนวคิดไฮเปอร์ดีไซน์ การวางตำแหน่งผู้ขับและพวงมาลัยสไตล์รถแข่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่สุดประทับใจ พร้อมจอแสดงผลดิจิทัล 3 จอFenomeno ยกระดับศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของลัมโบร์กินีในเรื่องวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษให้ถึงขีดสุด โดยใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลักในห้องโดยสาร เริ่มจากคอนโซลกลางที่ติดตั้งแผ่นรองแบบสปอร์ต ไปจนถึงแผงประตูและเบาะนั่งแบบสปอร์ตซึ่งได้รับการออกแบบมาเฉพาะรุ่น Fenomeno เท่านั้น เช่นเดียวกับช่องระบายอากาศบนแผงหน้าปัดที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารช่วยเน้นรูปทรงที่เหมือนยานอวกาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่พิเศษยิ่งขึ้น

 

ลูกค้ายังสามารถเลือกการปรับแต่งที่เหนือระดับเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับ Fenomeno ของตนเอง ด้วยโปรแกรม Lamborghini Ad Personam ซึ่งมอบตัวเลือกโทนสีที่แทบจะไร้ขีดจำกัด ทั้งสำหรับตัวถังและภายในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเลือกวัสดุหุ้มเบาะอีกมากมาย

การปรับแต่งทั้งหมดจะช่วยให้รถดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ผ่านการเลือกโทนสีภายนอกมากกว่า 400 สี และตัวเลือกการตกแต่งภายในที่มากมายไม่รู้จบ โดยลูกค้าสามารถกำหนดทุกอย่างได้เอง พร้อมบริการระดับเอ็กซ์คลูซีฟแบบเป็นส่วนตัวที่สตูดิโอ Lamborghini Ad Personam ในซัง'อกาตา

 

 

Fenomeno โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบดูดลมเข้าตามธรรมชาติและวางตำแหน่งกลางลำตัวรถ ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยหนึ่งตัวถูกติดตั้งอยู่ในชุดเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดรูปแบบใหม่ โดย Fenomeno ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนน้ำหนักเบาที่ให้กำลังจำเพาะสูง ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกลางโครงแชสซี

เครื่องยนต์ V12 แบบ oversquare ให้กำลัง 835 แรงม้า ที่ 9,250 รอบต่อนาที ด้วยชุดควบคุมการเปิดและปิดวาล์วที่ได้รับการออกแบบใหม่ รองรับความเร็วรอบสูงสุดที่ 9,500 รอบต่อนาที และให้กำลังจำเพาะสูงกว่า 128 แรงม้า/ลิตร ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเครื่องยนต์ V12 ของลัมโบร์กินี ทั้งยังให้แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที โดย 80% ของแรงบิดทั้งหมดจะทำงานที่รอบเครื่อง 3,500 รอบต่อนาที

 

 

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ส่งกำลังไปยังล้อหลัง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งบนเพลาหน้า โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเรเดียลฟลักซ์ตัวที่สามซึ่งติดตั้งอยู่เหนือกระปุกเกียร์คอยส่งแรงบิดไปยังล้อหลังตามโหมดการขับขี่ที่เลือก

แรงบิดรวมจากทั้งสี่ยูนิตมอบสมรรถนะที่โดดเด่นแม้ในกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ด้วยแรงบิดถึง 725 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์และ 350 นิวตันเมตรจากมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าแต่ละตัว ทำให้ได้แรงบิดสูงสุดรวมสูงสุด 1,080 แรงม้า ซึ่งเกิดจากการใช้แบตเตอรี่ขนาด 7 กิโลวัตต์ชั่วโมงแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่น Fenomeno โดยเฉพาะ

มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าสองตัวแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันวางตามแนวแกน และมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังอันยอดเยี่ยมที่ 110 กิโลวัตต์ต่อยูนิต ซึ่งมีน้ำหนักในแต่ละยูนิตเพียง 18.5 กิโลกรัม ซึ่งนอกจากขับเคลื่อนล้อหน้าแล้ว ยังมีฟังก์ชันควบคุมแรงบิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลวัตการขับขี่ รวมถึงฟังก์ชันการสร้างพลังงานกลับคืนจากการเบรก มาพร้อมเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด

 

ข้อมูลทางเทคนิค

ขนาดตัวรถ : ความยาว: 5014 มม. / ความกว้าง: 2076 มม. / ความสูง: 1161 มม. / ฐานล้อ: 2779 มม.

เบรก : หน้า : 420x40 มม. / หลัง : 410x32 มม.

ระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์ (ICE + BEV)

ปริมาตรกระบอกสูบ : 6498 ลบ.ซม.

กระบอกสูบและช่วงชัก : 95 x 76.4 มม.

กำลังสูงสุด (รอบต่อนาที) (ICE) : 835 แรงม้า ที่ 9250 รอบต่อนาที

กำลังสูงสุด (รวม ICE + EE) : 1.080 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด (ICE) : 725 นิวตันเมตร ที่ 6750 รอบต่อนาที

กำลังขับเฉพาะ : 128 แรงม้า/ลิตร

รอบสูงสุด : 9500 รอบต่อนาที

อัตราส่วนกำลังอัด : 12.6:1

ระบบส่งกำลังและกระปุกเกียร์ : กระปุกเกียร์แบบคลัตช์คู่ 8 สปีด

สมรรถนะ

ความเร็วสูงสุด : มากกว่า 350 กม./ชม.

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 2.4 วินาที

อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. : 6.7 วินาที

ระยะเบรก 100-0 กม./ชม. : 30 ม.

อัตราส่วนน้ำหนักแห้ง/กำลัง : 1.64 กก./แรงม้า