เกรท วอลล์ มอเตอร์

กวาดยอดขายครึ่งปีแรก รวมกว่า 5,000 คัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศความสำเร็จฉลองครึ่งปี 2565 ด้วยยอดขายและส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะทั้ง 3 รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยได้แก่ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ORA Good Cat และ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV รวมทั้งสิ้น 5,219 คัน นำโดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ยังยืนหนึ่งในเซ็กเมนต์คอมแพ็คเอสยูวีอย่างเหนียวแน่นเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจคนไทย ORA Good Cat ตามมาติด ๆ ที่ 1,402 คัน ตอกย้ำความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากผู้บริโภคที่มอบให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมุ่งมั่นก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ที่พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นสังคมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต

 

ส่งท้ายไตรมาส 2 พร้อมก้าวเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 อย่างเต็มภาคภูมิหลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคอมแพ็คเอสยูวีกับ All New HAVAL H6 Hybrid SUV รถยนต์รุ่นแรกที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยและยังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น โดยทำยอดขายในเดือนมิถุนายนที่ 355 คัน ครองอันดับ 1 ติดต่อกันนานถึง 6 เดือนซ้อนในปีนี้ การันตีความสำเร็จด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 2,218 คันในช่วงครึ่งปีแรก โดยนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 จนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งมอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ให้กับลูกค้าไปแล้ว 4,859 คัน

 

ในส่วนของ ORA Good Cat ที่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์ไฟฟ้า 100% ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวในไทย และยังคงร้อนแรงไม่หยุดถึงแม้จะประสบปัญหากับสถานการชิปและแบตเตอรี่ขาดแคลนทั่วโลก โดยบริษัทฯ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับสำนักงานใหญ่ที่ประเทศจีนและพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศจนสามารถส่งมอบ ORA Good Cat ให้กับแฟน ๆ ชาวไทยได้กว่า 1,402 คันในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเป็นยอดส่งมอบในเดือนมิถุนายนจำนวนกว่า 116 คัน ทำให้เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถส่งมอบ ORA Good Cat ไปโลดแล่นในถนนประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 1,864 คัน โดยในขณะนี้ยังมียอดจองที่รอส่งมอบกว่า 3,000 คัน และบริษัทจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะส่งมอบรถให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังสร้างปรากฏการณ์และปลุกกระแสยานยนต์ไฟฟ้าให้กลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากับการเปิดตัว ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะอันเร้าใจ พร้อมประเดิมการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการกวาดยอดจองทั้งหมด 500 คัน ภายใน 58 นาที ตอกย้ำความร้อนแรงของแบรนด์ ORA และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยอย่าง GWM L.E.M.O.N Platform มอบสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยเหนือระดับให้แก่ผู้ขับขี่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความบันเทิงล้ำสมัยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ได้รับการส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยไปแล้วทั้งสิ้น 2,198 คัน รวมเป็นยอดส่งมอบในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จำนวน 1,599 คัน โดยเป็นยอดขายของเดือนมิถุนายน 173 คัน

 

 

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ความสำเร็จของเราตลอดครึ่งแรกของปี 2565 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเรา และถือเป็นกำลังใจสำคัญให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมยานยนต์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของผู้บริโภคเพื่อนำมาออกแบบและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความพร้อมของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและมอบความอุ่นใจในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมทั้งร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

 

ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศกลยุทธ์ 6S ซึ่งให้ความสำคัญกับการขายและการบริการแบบครบวงจรเพื่อมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าและแฟนๆ ชาวไทย ประกอบด้วย Sales, Service, Spare parts, Survey, Social & Share ซึ่งเชื่อมโยงการสื่อสารและการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคในทุก ๆ ช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สะท้อนแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-centric) โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบบริการหลังการขายและการบริหารจัดการอะไหล่ โดยในปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายพื้นที่คลังอะไหล่เพื่อรองรับปริมาณอะไหล่ให้พร้อมกับปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเพิ่มปริมาณการจัดเก็บอะไหล่กว่า 40% ลูกค้าทุกคนสามารถมั่นใจและอุ่นใจได้ว่าบริษัทจะดำเนินงานบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพและมีการสั่งซื้ออะไหล่ตามจำนวนและระยะเวลาที่เหมาะสม โดยบริษัทสามารถจัดส่งอะไหล่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้ภายในวันเดียวกัน และจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศได้ภายใน 2 วันทำการ ในอนาคตศูนย์บริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้า ให้สามารถตรวจสอบจำนวนอะไหล่ได้แบบเรียลไทม์

 

ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ในการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าระหว่าง OR และ GWM เพื่อเชื่อมโยงระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Roaming) ในสถานีชาร์จ EV Station PluZ โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้าที่จะขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ได้ 55 แห่ง ภายในปี 2565 ภายใต้ชื่อแพลตฟอร์ม G-Charge ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% และต่างจังหวัด 30% ซึ่งสถานีชาร์จทั้งหมดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูง เริ่มต้นที่ 120 kW และมีรูปแบบหัวชาร์จแบบ CCS2 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะรวบรวมพิกัดสถานีชาร์จทั่วประเทศไทยใน GWM Application ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นจาก 55% เป็น 80% ภายในปีนี้อีกด้วย

นอกจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในเวทีระดับโลก โดยในเดือนมิถุนายน 2565 มียอดขายรถยนต์รวมทุกรุ่นสูงถึง 101,186 คัน เพิ่มขึ้น 26.38% จากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดขายในตลาดต่างประเทศถึง 13,451 คัน ส่งผลให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มียอดขายรถยนต์ในตลาดต่างประเทศแล้วมากกว่า 1 ล้านคัน และมียอดขายรวมทั้งหมดทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 กว่า 518,525 คัน โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขายรถยนต์จากตลาดต่างประเทศสูงถึง 62,823 คัน หรือคิดเป็น 12% ของยอดขายรวมทั้งหมด

ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องโดยการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย เคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน