ตลาดรถยนต์ครึ่งปี 2568

ยอดขายรวม 302,694 คัน ลดลง 1.7%

คาดการณ์ตลาดปี 2568 อยู่ที่ 600,000 คัน

 

สรุปยอดขายรถยนต์ครึ่งปีพ.ศ. 2568 ยอดขายสะสมตลาดรวม 302,694 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 117,482 คัน ลดลง 1.5% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 185,212 คัน ลดลง 1.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 94,715 คัน ลดลง 12.7% 

สำหรับยอดขายประจำเดือนมิถุนายน 2568 ยอดขายสะสมตลาดรวม 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 15,307 คัน ลดลง 8.2% 

ตลาดรถยนต์ครึ่งปี พ.ศ. 2568 มียอดขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขายสะสม 117,482 คัน ลดลง 1.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขายลดลง 1.8% ด้วยยอดขาย 185,212 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 94,715 คัน ลดลงถึง 12.7% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 132,493 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.8% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 21.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ HEV อยู่ที่ 67,202 คัน ซึ่งยอดขายรวมอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 56,529 คัน เติบโตขึ้น 54.5 %

ตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 มียอดขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 9.4% ด้วยยอดขาย 19,397 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 2.5% ด้วยยอดขาย 30,682 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 21,915 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.7% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 11.6% ด้วยยอดขาย 11,034 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 9,743 คัน เพิ่มขึ้น 59.9%

ตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มทรงตัว หรือลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอาจลดหรือชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายออกไป เพื่อรอความชัดเจนด้านต่าง ๆ จากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนระหว่างสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในครึ่งปีแรก โตโยต้ามียอดขายรถยนต์รวมที่ 113,889 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 37.6% โดยเฉพาะ ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up + รถกระบะดัดแปลง PPV)  มียอดขายรวมอยู่ที่ 42,430 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์เซกเมนต์นี้ถึง 44.8% สำหรับยอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 39,644 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 33.7% อีกทั้งโตโยต้ายังมียอดขายรถยนต์ไฮบริดถึง 31,793  คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 24% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มตลาด xEV ทั้งหมด 

ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรก 2568 เริ่มส่งสัญญาณมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 302,694 คัน หรือลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อเทียบกับปี 2567 โตโยต้ายังคงคาดการณ์ระดับตลาดในปี 2568 ที่ระดับ 600,000 คัน สำหรับโตโยต้า ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% สร้างส่วนแบ่งทางการตลาด เท่ากับ 38.5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลัง โตโยต้ามีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงตลาด xEV ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย เพื่อร่วมส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน”

 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2568

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,105 คัน เพิ่มขึ้น 3% ส่วนแบ่งตลาด  38.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,625 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,149 คัน ลดลง 15.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,575 คัน เพิ่มขึ้น 22.4% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  3,130 คัน ลดลง 7.4% ส่วนแบ่งตลาด 16.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 876 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด   4.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,530 คัน ลดลง 4.9% ส่วนแบ่งตลาด  40.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,625 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 18.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,019 คันลดลง 26.4% ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,099 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,756 คัน ลดลง 22.6% ส่วนแบ่งตลาด 31.1%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,399 คัน ลดลง 14.5% ส่วนแบ่งตลาด  9.1%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,032 คัน โตโยต้า 1,258 คัน - อีซูซุ 988 คัน – ฟอร์ด 578 คัน – มิตซูบิชิ 129 คัน – นิสสัน 33 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,269 คัน ลดลง 19.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,841 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 51.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ  3,768 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 821 คัน ลดลง 23.1%  ส่วนแบ่งตลาด  7.3%     

 สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 113,889 คัน ลดลง 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 37,506 คัน ลดลง 18.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 35,355 คัน ลดลง 18.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 117,482 คัน ลดลง 1.5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า  39,644 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  19,672 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 5,915 คัน ลดลง 40.2% ส่วนแบ่งตลาด  5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 185,212 คัน ลดลง 1.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 74,245 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 37,506 คัน ลดลง 18.9% ส่วนแบ่งตลาด 20.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 15,683 คัน เพิ่มขึ้น 16.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.5%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 94,715 คัน ลดลง 12.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 42,430 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 44.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 32,804 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,400 คัน ลดลง 16.7% ส่วนแบ่งตลาด  9.9%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 20,714 คัน โตโยต้า 7,294 คัน - อีซูซุ 6,183 คัน – ฟอร์ด 3,717 คัน – มิตซูบิชิ 888 คัน – นิสสัน 269 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 73,995 คัน ลดลง 17.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 35,136 คัน ลดลง  17.7% ส่วนแบ่งตลาด 47.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 26,621 คัน ลดลง  23.2% ส่วนแบ่งตลาด  36%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด  5,683 คัน ลดลง  19% ส่วนแบ่งตลาด  7.7%