GWM ปิดฉาก Motor Expo 2025 สุดปัง!

กวาดยอดจอง 4,609 คัน

ดันแรงด้วย 3 ไฮไลต์รุ่นเด่นแห่งปี

 

 

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ภายใต้แนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด สร้างปรากฏการณ์ในงาน Motor Expo 2025 ด้วยยอดจองรวมทั้งสิ้น 4,609 คัน สะท้อนกระแสตอบรับอันร้อนแรงและความมั่นใจในแบรนด์ GWM จากผู้บริโภคชาวไทยที่มองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งเทคโนโลยี ความปลอดภัย และสไตล์ชีวิตที่แตกต่าง รวมถึงความไว้วางใจในการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้งานจริงมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดจองสะสมในงาน Motor Expo 2025 นี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 124% พร้อมสถิติผู้ลงทะเบียนทดลองขับและร่วมกิจกรรมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงการรับรู้ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการขยายฐานผู้ใช้ที่มองหายนตรกรรมที่มีขุมพลังขับเคลื่อนที่หลากหลาย โดยครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานทั้งครอบครัว กลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักธุรกิจที่มองหาความลักชัวรี่และเทคโนโลยีล้ำสมัย

 

3 รุ่นไฮไลต์ที่ครองใจลูกค้าในงาน Motor Expo

GWM TANK 300 DIESEL – รถยนต์ SUV สไตล์ Premium Boxy อันเป็นเอกลักษณ์ ยังคงความร้อนแรงด้วยยอดจองสูงที่สุดของ GWM ถึง 1,818 คัน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา พร้อมสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัย ที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับแฟน ๆ ชาวไทย นอกจากนี้ ยังมี GWM TANK 300 DIESEL Desert Storm Limited Edition เข้ามาสร้างสีสันและสะท้อนสไตล์เฉพาะตัว ในจำนวนจำกัดเพียง  300 คัน ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมงาน จึงไม่แปลกใจว่าทำไม GWM TANK 300 DIESEL ที่ส่งมอบไปแล้วกว่า 6,000 คัน ยังคงเป็นรถยอดนิยมสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบสไตล์และการผจญภัย

 

GWM ORA Good Cat – เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ “รถคันแรกในใจใครหลายคน” แต่เป็นไอคอนของความคิ้วท์ ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมระบบความปลอดภัยล้ำสมัยและแบตเตอรี่ผลิตในประเทศที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ทำให้เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคนยุคใหม่และผู้ปกครองที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความคุ้มค่า และดีไซน์ที่สะท้อนตัวตน นอกจากนี้เดือนธันวาคม 2568 ถือเป็นโค้งสุดท้ายในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้มาตรการ EV 3.0 กับสิทธิประโยชน์สูงถึง 150,000 บาทและข้อเสนอที่ดีที่สุดของ GWM ORA Good Cat ซึ่งหลังจากจบงาน ได้กวาดยอดจองไปได้อย่างถล่มทะลายถึง 1,566 คัน

 

WEY G9 – The Crafted Masterpiece สำหรับผู้นำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และครอบครัวระดับไฮเอนด์ รถลักชัวรี่ MPV รุ่นแรกของ GWM WEY ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมและเกินความคาดหมายจากผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ ข้าราชการระดับผู้ใหญ่ ที่ต้องการภาพลักษณ์เหนือระดับ และครอบครัวที่ต้องการรถ MPV ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันที่หลากหลาย โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา เทคโนโลยีไฮบริดขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ หรือ Hi4 ที่มอบทั้งสมรรถนะ เสถียรภาพในการขับขี่ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายระดับแฟลกชิปด้วยเบาะแถวสองแบบ Zero-Gravity Seats สามารถเดินทางได้มากกว่า 1,000 กิโลเมตรโดยไม่ต้องแวะชาร์จ WEY G9 รุ่น Hi4 Ultra สามารถทำยอดจองสูงสุดที่ 378 คัน

  

 

นอกจาก 3 รุ่นไฮไลต์แล้ว รถรุ่นยอดนิยมอื่นของ GWM ก็ได้รับความสนใจอย่างสูงเช่นกัน โดยเฉพาะ GWM POER SAHAR Diesel กระบะพรีเมียมสำหรับสายลุยที่ไม่ทิ้งความสบาย เป็นรถกระบะแห่งปีที่ตอบโจทย์นักเดินทางและสายแอดเวนเจอร์ที่ต้องการรถกระบะขนาดใหญ่ที่เหมาะกับการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการ เป็น “Next Level of Lifestyle Partner” ที่มีสมรรถนะสูง แต่ยังคงใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมดีไซน์พรีเมียมและความสบายในทุกเส้นทาง รวมถึง NEW GWM TANK 500 Diesel รถ SUV ระดับพรีเมียมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า ตอบโจทย์การขับขี่ที่หลากหลาย และ GWM HAVAL H6 PHEV ที่ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ครองใจผู้บริโภคด้วยความประหยัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งสามรุ่นได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม รวมถึงรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของ GWM สะท้อนความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ในทุกเซกเมนต์ ซึ่งมียอดจองรวมกันทั้งสิ้น 4,609 คัน

  

 

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “เราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและการตอบรับที่ยอดเยี่ยมในงาน Motor Expo 2025 ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เพียงตัวเลขยอดจอง แต่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า GWM ยืนหยัดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างมั่นคงและแข็งแรง ภายใต้กลยุทธ์ Multi-powertrain การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในทุกระบบขับเคลื่อน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในหลากหลายเซกเมนต์ ครอบคลุมถึง 85% ของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย นอกจากนี้ ความสำเร็จของเรายังมาจากการรับฟังเสียงของลูกค้า หรือ User-Centric เราเชื่อว่าการฟังเสียงผู้ใช้คือหัวใจของการสร้างแบรนด์และการเติบโตในระยะยาว เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบของคนไทย ผลลัพธ์คือการตอบรับที่เหนือความคาดหมายจากลูกค้าชาวไทยในงาน Motor Expo ปีนี้ นอกจากผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแล้ว GWM ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความอุ่นใจไร้กังวลให้กับลูกค้าของเรา เรามุ่งยกระดับมาตรฐานการบริการให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์จีนอันดับ 1 ด้านบริการหลังการขาย และแบรนด์ที่คนไทยให้ความไว้วางใจสูงสุด”