คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติ

ยกเว้นภาษีนำเข้ารถโบราณอายุเกิน 100 ปี

 

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 สำหรับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ (Classic Cars) (มาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการภายใต้มาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอซึ่งมาตรการดังกล่าวมีจำนวน 4 มาตรการย่อย ได้แก่ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ มาตรการลดหรือยกเว้นภาษีอากรขาเข้างานศิลปะ และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ (Classic Cars)

สำหรับการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีสำหรับมาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ดังนี้

1. เห็นชอบการเพิ่มคุณสมบัติของรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ให้ครอบคลุมถึงรถยนต์ที่มีอายุเกิน 100 ปี

2. เห็นชอบในหลักการของแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตหรือบูรณะ (Restoration) รถยนต์โบราณ (Classic Cars) โดยให้รถยนต์โบราณ (Classic Cars) ที่นำเข้าและมีการบูรณะภายในประเทศ และส่งออกภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่ได้มีการน าเข้าสำเร็จ มีสิทธิได้รับคืนภาษีเต็มจำนวนในกรณีส่งออกไปนอกราชอาณาจักรตามกฎหมาย

3. เห็นชอบร่างกฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อกำหนดรายละเอียดแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในด้านภาษีอากรภายใต้มาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ ได้แก่ (1) ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งจะกำหนดพิกัดรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ให้เป็นรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณลักษณะที่อธิบดีประกาศกำหนด ในอัตราร้อยละ 45 ของราคาขายปลีกแนะนำ และ (2) ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรเเละยกเว้นอัตราอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 เเห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) ซึ่งมีการกำหนดการยกเว้นอากรแก่รถยนต์โบราณ(Classic Cars) ที่ต้องเป็นของตามประเภทพิกัด 87.03 หรือประเภทพิกัด 97.06 ที่นำเข้ามาแบบสำเร็จรูปทั้งคัน(Completely Built Up : CBU) ตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด

ทั้งนี้การดำเนินมาตรการภาษี รถยนต์โบราณฯ มีความครอบคลุมถึงรถยนต์นั่งและรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 100 ปี นอกจากจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศและช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศให้เกิดการจ้างงานและการพัฒนาความรู้และทักษะของแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือบูรณะรถยนต์โบราณ ยังเป็นการอำนวยรายได้ให้แก่รัฐบาล ซึ่งกรมสรรพสามิตได้ประมาณการว่า หากมีการดำเนินมาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ จะสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งนอกจากจะสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตแล้ว การนำเข้ารถยนต์โบราณ(Classic Cars) มาในประเทศยังส่งผลให้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มเติมจากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ มีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนนอกเหนือจากกระทรวงการคลัง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งแต่ละภาคส่วนก็ได้เร่งดำเนินการยกร่างกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการดำเนินมาตรการภาษีรถยนต์โบราณฯ แล้ว

 

ที่มา – สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง