ฮุนได มอเตอร์ รายงานผลการดำเนินธุรกิจ

ประจำไตรมาสที่สองปี 2023

 

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ จำกัด ได้รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาสที่สองของปี 2023 ในวันนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของบริษัทฯ ที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถยนต์หรูทั่วโลก

รายได้ในไตรมาสที่สองของฮุนได มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 17.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 42.25 ล้านล้านวอน กำไรจากการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 42.2% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.24 ล้านล้านวอน ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานแตะระดับ 10% สูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2013 สำหรับผลกำไรสุทธิ (ไม่รวมดอกเบี้ยที่ควบคุมไม่ได้) เพิ่มขึ้น 8.5% เป็น 3.35 ล้านล้านวอน

ฮุนได มอเตอร์ ขายรถยนต์ไปได้ทั่วโลกในไตรมาสที่สองเป็นจำนวน 1,059,713 คัน เพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดขายนอกเกาหลีเพิ่มขึ้น 7.6% เป็น 854,210 คัน สำหรับยอดขายในเกาหลีเพิ่มขึ้น 12.7% เป็น 205,503 คัน

ภาพรวมของยอดขายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์อเนกประสงค์และรถยนต์หรู Genesis รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ล้วนมีผลในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในไตรมาสที่สองอีกด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าว ฮุนได มอเตอร์ ขายรถยนต์ไฟฟ้าไปได้เกือบแตะระดับ 78,000 คัน สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 47%

บริษัทฯ คาดหวังให้กระแสยอดขายที่แข็งแกร่งนี้คงอยู่ต่อไป ผ่านการผลิตที่มีสภาวะดีขึ้นจากการผลิตชิปและชิ้นส่วน ซึ่งมีความมั่นคงขึ้นทั่วโลก, ความต้องการผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อันแข็งแกร่ง และยังสามารถสร้างผลกำไรได้ แม้จะมีสภาวะไม่แน่นอนทั่วโลก รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยผันผวน และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น

ปรับแผนการคาดการณ์การเงินประจำปี 2023 ใหม่

ฮุนได มอเตอร์ ได้ประกาศปรับงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทฯ ใหม่ตามสภาวะตลาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารอย่างโปร่งใส

บริษัทฯ ตั้งเป้าให้ 14 – 15% ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10.5 – 11.5% จากที่ประกาศไปก่อนหน้าในช่วงต้นปี ทั้งยังปรับอัตรากำไรรวมประจำปีจากการดำเนินงานเป็น 8 – 9% ในปี 2023 โดยเป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น, ทางเลือกของผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ซึ่งมีรถยนต์อเนกประสงค์และรถยนต์หรูมากขึ้น รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลดีต่อบริษัท

ฮุนได มอเตอร์ คงเป้าหมายยอดขายประจำปีไว้ที่ 4.32 ล้านคัน และมีแผนการลงทุนมูลค่าทั้งหมด 10.5 ล้านล้านวอน

จากการประกาศในเดือนเมษายน 2023 บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้นจากผลกำไรสุทธิรวม ซึ่งแปรผันตามดอกเบี้ยที่ควบคุมได้ สำหรับอัตราเงินปันผลรายไตรมาสและการยกเลิกคิดเป็น 1% ของหุ้นทุนซื้อคืนที่มีอยู่ทุกปี ภายในเวลาสามปีข้างหน้า บริษัทฯ จะเริ่มจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสในอัตรา 1,500 วอนต่อหุ้นสามัญ นับตั้งแต่ไตรมาสที่สองนี้เป็นต้นไป

ฮุนได มอเตอร์ จะรักษาสภาวะผลกำไรที่มั่นคงนี้เอาไว้ ไปพร้อมกับการเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า

ฮุนได มอเตอร์ ตั้งเป้าที่จะรักษาผลกำไรที่สูงนี้เอาไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายจากการคาดการณ์ประจำปี ผ่านยอดขายที่เพิ่มขึ้น, ทางเลือกของผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ที่มีรถยนต์อเนกประสงค์และรถยนต์หรูมากขึ้น รวมไปถึงอัตราการผลิตที่กลับมาฟื้นตัว แม้จะมีปัจจัยลบจากภายนอก อย่างอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น รวมไปถึงความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และอัตราดอกเบี้ย

บริษัทฯ จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำระดับโลก ด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากการเพิ่มยอดขาย IONIQ 6 ที่คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม World Car of the Year รวมไปถึง IONIQ 5 พร้อมเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั่วโลกอย่าง Hyundai Kona EV, Genesis GV60, Genesis G80 ขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้า และ Genesis GV70 ขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้า

บริษัทฯ ยังเปิดตัว IONIQ 5 N รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นแรก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก นอกจากนั้น จะยังมีการเปิดตัว IONIQ 6 เพิ่มเติมในตลาดอื่นทั่วโลกอีกด้วย

ฮุนได มอเตอร์ คาดหวังให้ Santa Fe รุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง และมีแผนเปิดตัวทั่วโลกในเดือนที่กำลังจะถึงนี้ มาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เสริมสร้างยอดขายที่กำลังเติบโตในปีนี้